ข่าวเกี่ยวกับฟุตบอล ตำนานเทพลูกหนัง ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ โยฮัน ครัฟฟ์ (Johan Cruyff)
ข่าวเกี่ยวกับฟุตบอล บทความกีฬาที่น่าสนใจ ขอนำเสนอ ตำนานเทพลูกหนัง ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ โยฮัน ครัฟฟ์ (Johan Cruyff) นักเตะเทวดา นักล่าประตูยุค70 บาทความข่าวเกี่ยวกับฟุตบอล หากฟุตบอลคือความสวยงาม เราก็สามารถนิยามถึงตัวเขา ได้อย่างเต็มความหมาย เพราะสำตล์การเล่นฟุตบอลของเขา แม้ว่าไม่เคยเห็นกับตา แต่ก็พอจะอุปมาได้ว่า เขาคือผู้เล่นสุดคลาสสิค ไร้รูปแบบไร้รูปทรง แต่เป็นการสร้างมิติใหม่ ให้กับวงการฟุตบอล ได้อย่างสุดมหัศจรรย์
ข่าววันนี้ ข่าวเกี่ยวกับฟุตบอล คำว่าอัจฉริยะ มันคงจะน้อยเกินไป สำหรับใช้ในการนำหน้าชื่อของเขา ต้องใช้คำว่าระดับเทวดา ถึงจะเหมาะสมที่สุด ครัฟฟ์คือผู้เป็นหนึ่งในอัจฉริยะ แห่งวงการฟุตบอลตลอดกาล มีคำสอนและวาทกรรม ที่ออกมาจากปากของเขา ที่กล่าวออกมาได้อย่างสวยงาม จากมันสมองแนปราดเปรื่องของเขา เทคนิคและแท็คติกการเล่น ที่เขาเป็นผู้บุกเบิกมากมาย เหมือนกับเป็นต้นทางแห่งความคิด
ให้คนรุ่นหลังได้นำไปพัฒนาต่อยอด ท่วงท่าลีลาพริ้มไหวสง่างาม เหมือนกับผ้าไหมผืนบาง ที่ปลิวไปตามสายลม ในฤดูใบไม้ผลิ เมื่อใดที่เขาได้ควบลูกบอลในสนามหญ้า แค่คิดให้ทันว่าเขาจะทำอะไรต่อไป มันก็ยากเกินไป ที่จะหยุดเขาได้แล้ว เพราะฉะนั้นอย่าหวังถึงการไล่หวดเขา เพื่อเอาบอลคืนมา เพราะตัวเขามักจะมีจังหวะการเล่น ที่ได้เปรียบอยู่เสมอ เขาคือเคลียร์ทีฟที่สุดยอด ที่สวมรองเท้าสตั๊ด ความคิดของเขามันเฉียบแหลม ล้ำกว่าคู่แข่งในสนาม
ข่าวฟุตบอลต่างประเทศ ครัฟฟ์เล่นในตำแหน่งกองหน้า อีกทั้งยังเป็นตัวฟรี ที่สามารถเล่นในตำแหน่งใดก็ได้ในแผงหน้า หากพวกคุณคิดไม่ออก ให้คิดถึงตำแหน่งการเล่นของลิโอเนล เมสซี่ ก็พอจะรู้แล้วว่า ตัวเขานั้นเล่นบอลแบบไหน เอริค คันโตน่า เคยพูดถึงเขาว่า เขาคือนักฟุตบอลที่เล่นได้ทุกตำแหน่ง
ไม่ว่าเขาจะเล่นในตำแหน่งไหนก็ตาม เขาคือผู้เล่นในแบบติกิ ตาก้า ในยุคนั้น เขาสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่ง ได้ตลอดเวลา เขาคือสุดยอดผู้เล่นอย่างแท้จริง ฟุตบอลที่เรียบง่ายที่สุด คือฟุตบอลที่สวยงามที่สุด แต่มันยากมาก ที่จะทำให้เป็นเรื่องง่าย และนี่คือหนึ่งในวาทกรรมของตัวเขา และตัวเขาก็ทำสิ่งเหล่านั้นบนผืนหญ้า ได้อย่างง่ายดายทุกประการ
ข่าวเกี่ยวกับฟุตบอล เส้นทางการเป็นนักฟุตบอลระดับโลก
ข่าวกีฬา ข่าวเกี่ยวกับฟุตบอล ครัฟฟ์เกิดหลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ไม่นาน เขาเติบโตในย่านที่สโมสรอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ตั้งอยู่และฝากชีวิตการเป็นนักฟุตบอล ตั้งแต่ในวัยเด็ก เขาฝึกหัดเล่นฟุตบอลจากข้างถนน ซึ่งเขาไม่เคยลืมการเล่นฟุตบอลข้างถนนเลย ซึ่งตัวเขาเคยออกมาพูดถึงการเล่นบอลข้างถนนว่า นี่คือการเล่นที่สำคัญมาก สำคัญกว่าการมีโค้ชคอยให้การช่วยเหลือเสียอีก
ข่าววงใน ฟุตบอล คุณพ่อของเขาได้เสียชีวิตไป ตั้งแต่เขายังเด็ก ส่วนคุณแม่ของเขา เป็นพนักงานทำความสพอาดให้กับสโมสรอาแจ็กซ์ และนี่คือเหตุผลที่เขาเติบโต ด้วยการมีหัวจิตหัวใจที่แข็งแกร่ง ซึ่งในเวลาต่อมาตัวเขา ก็กลายเป็นนักเตะทีมเยาวชน ของสโมสรอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ตั้งแต่อายุ 10 ปี ด้วยคาแรคเตอร์ ความเป็นผู้นำ ที่ติดตัวเขามา และมีอารมณ์ความเป็นศิลปินหัวขบถอยู่ไม่น้อย เพราะความไม่พร้อมในวัยเด็กของเขา ทำให้สโมสรอาแจ็กซ์ ได้ให้โอกาสเขาลงเล่นตั้งแต่อายุ 17 ปี
ความอ่อนหัดของเขา ทำให้เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลได้อย่างเชื่องช้า แต่เมื่อเขาได้สั่งสมประสบการณ์มากขึ้น ก็ไม่มีคู่แข่งคนไหน ที่จะสามารถหยุดยั้งเขาได้อีกต่อไป ครัฟฟ์ยิ่งเล่นยิ่งเหมือนเทวดา เขามีสายตาที่ยอดเยี่ยมในสนาม และเทคนิคของเขาก็สุดยอดมาก การสัมผัสบอล การจ่ายบอล และการยิงประตู เขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมไปหมด การเคลื่อนที่ของเขา เต็มไปด้วยจินตนาการ เขาเล่นได้ทั้งสองเท้าแบบชำนาญ
เขายิงประตูได้จากทุกมุมของสนาม ไม่ว่าลูกบอลจะมาหาเขายากเย็นขนาดไหน แต่เขาก็สามารถหาจังหวะ เปลี่ยนเป็นการยิงประตูได้เสมอ ในปี 1995 เขายิงประตูได้อย่างถล่มทลาย ยิงประตูไปทั้งหมด 25 ประตู จากการแข่งขัน 23 เกมส์ พาสโมสรคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ ซึ่งตัวเขามีอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น จากนั้นในฤดูกาลต่อมา พาทีมสโมสรคว้าดับเบิ้ลแชมป์ และเป็นดับเบิ้ลแชมป์แรกในชีวิตเจ้าตัว พร้อมกับคว้ารางวัลดาวซัลโวไปครอง จากการยิงประตูไปทั้งหมด 33 ลูก
ข่าวกีฬาไทยรัฐ ข่าวเกี่ยวกับฟุตบอล ครัฟฟ์เป็นกุญแจสำคัญ ในการพาสโมสรประสบความสำเร็จอย่างมาก ด้วยการคว้าถ้วยแชมป์ยูโรเปี้ยส์คัพ 3 ปีติดต่อกัน ตั้งแต่ในปี 1970 – 1973 อีกทั้งเจ้าตัวยังได้รับรางวัล นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่า (Ballon d’Or) 2 ปี ในปี 1971 และปี 1973
การย้ายสโมสรจากอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม สู่สโมสรบาร์เซโลน่า เพื่อการเป็นสุดยอดตำนานนักฟุตบอล
ข่าวกีฬาฟุตบอลไทย ข่าวเกี่ยวกับฟุตบอล ในปี 1974 สโมสรบาร์เซโลน่า ได้จัดการคว้าตัวเขาไปร่วมทีม ด้วยจำนวนเงินที่เป็นสถิติโลก ประมาณ 70 ล้านบาท เมื่อสมัย 50 ปีที่แล้ว ซึ่งการมาของเขา ได้กลับมาร่วมงานกับ ไรนุส มิเชล ยอดโค้ชคู่บญอีกครั้ง และพาสโมสรคว้าแชมป์ลีก ตั้งแต่ฤดูกาลแรก พร้อมกับได้รับรางวัลบัลลงดอร์อีกหนึ่งสมัย
5 ฤดูกาลที่เขาลงเล่นให้กับสโมสร ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จ ในการคว้าแชมป์มากมาย แต่ตัวเขาได้รับการยกย่องอย่างสูงสุด ในเส้นทางอาชีพนักฟุตบอล และในปีนี้เขายังพาทัพกังหันลมสีส้ม ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ คว้าตำแหน่งรองแชมป์ฟุตบอลโลก และศึกการแข่งขันทัวร์นาเมนต์นี้ ถือเป็นการเข้ามาแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกในรอบ 36 ปี
ไรนุส มิเชล ได้ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมชาติเนเธอร์แลนด์ และด้วยปรัชญาการเล่นฟุตบอลแบบ Total Football ซึ่งมีครัฟฟ์เป็ยจุดศูนย์กลางของทีม จากนั้นทีมก็สามารถผ่านรอบแรกไปได้สำเร็จ และถูกยกให้เป็นทีมเต็งอันดับที่ 1 ในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก และการผ่านเข้าไปแข่งขันในรอบที่ 2 นัดสุดท้าย ทีมกังหันลมสีส้ม ต้องเจอกับโคตรทีมอย่างบราซิล ซึ่งในนัดนี้ตัวเขายิงประตู 1 ลูก ช่วยทีมเอาชนะบราซิล ไปด้วยสกอร์ 2:0
การที่พาทีมเขาไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเจอกับทีมเจ้าภาพเยอรมัน เขาได้สร้างเสียงฮือฮาอย่างมาก ตั้งแต่ในช่วงต้นเกมส์เพียง 2 นาที ด้วยการเรียกจุดโทษให้กับทีม และเป็นผู้สังหารจุดโทษด้วยตัวเอง ทำให้ทีมออกขึ้นนำไปด้วยสกอร์ 1:0 แต่ด้วยความยอดเยี่ยมของทัพอิรทรีเหล็ก สามารพลิกกลับมาเอาชนะไปด้วยสกอร์ 2:1 ทำให้ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เป็นเพียงรองแชมป์ฟุตบอลโลกเท่านั้น
จากบทบาทนักฟุตบอลสู่การเป็นผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอล
ข่าวเกี่ยวกับฟุตบอล หลังจากที่ตัวเขาได้ประกาศเลิกเล่นฟุตบอล เขาก็ผันตัวเองก้าวขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล โดยสโมสรแรกที่เขาคุมทีมนั้น ก็คือสโมสรอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เขาคุมทีมเป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ในปี 1985 – 1988 และถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้พาทีมประสบความสำเร็จ ในการคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ เหมือนสมัยเป็นนักฟุตบอล แต่เจ้าตัวก็สามารถพาทีมคว้าถ้วยแชมป์ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพมาครองได้ 1 สมัย
จากนั้นเจ้าตัวได้เป็นผู้จัดการทีมสโมสรบาร์เซโลน่า โดยเข้ามารับงานคุมทีมตั้งแต่ในปี 1988 – 1996 ได้พาสโมสรคว้าถ้วยแชมป์อย่างมากมาย เช่น การคว้าแชมป์ลาลีกา 4 สมัย คว้าแชมป์ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา 3 สมัย และคว้าแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 1 สมัย ด้วยปรัชญาการทำทีมฟุตบอลของเขา ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงสโมสรบาร์ซาไปตลอดกาล ตั้งแต่การวางรากฐานของศูนย์เยาวชน
โดยให้เลือกมองไปที่พรสวรรค์ของเด็กเป็นอันดับแรก ลดความสำคัญทางด้านร่างกาย เพิ่มความเข้าใจในระบบการเล่น เขาคือนักคิดนักสร้างแห่งวงการฟุตบอล เป็นผู้วางรากฐานของฟุตบอลสมัยใหม่ ด้วยความอัจฉะริยะของเขา ทำให้หน้าประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลเปลี่ยนไปตลอดกาล
ข่าวบอลแมนยู ในสมัยที่อดีตนักเตะอย่าง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ได้เข้ามารับตำแหน่ง ผู้จัดการทีมปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เจ้าตัวได้นำปรัชญาการทำทีมของครัฟฟ์ เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการคุมทีมด้วย ซึ่งครัฟฟ์มักจะพูดอยู่เสมอว่า 90% ของการเล่นฟุตบอล ขึ้นอยู่ที่สมอง ส่วนอีก 10% ที่เหลืออยู่ที่เท้า และแนวทางของผมในการจัดการทีม คือการฝึกสอนบุคคลทั้งหมดไม่ใช่เพียงแต่ทักษะในเชิงฟุตบอลเท่านั้น แต่เพื่อทำให้พวกเขารู้สึกมีคุณค่า หากพวกเขาไม่มีความสุขทางจิตใจ พวกเขาก็ไม่สามารถทำผลงานออกมาได้ดี